Hort'40
 
  Home
  => บทแซวเพื่อนๆ...คลิกเลยจ้า!!!
  => แซวต่อ!!!ลำดับที่ 14-30
  => แซวต่อ(+.+)ลำดับที่31-45
  => แซวต่อ...ลำดับที่ 46-64(สุดท้ายละ)
  => ความหมายของคำว่าเพื่อน...(>.<)(^_^)Zzz
  => รูปเพื่อนๆตอนปี 1
  => ::Gallery:: 1
  => Cartoon-emotion...narukjang!!
  => แนะ 80 วิธีทำดีถวายฯ ในหลวง
  => กล้วยไม้ ไม้เงินล้าน
  => รูปพี่บัณฑิตนัดเลี้ยง ปี 50
  => ~~Princess Hours~~(*๐*)"
  => ข้อมูลไม่ลับของเพื่อนๆ 15 คนแรก
  Contact
  Guestbook
  Link list
กล้วยไม้ ไม้เงินล้าน
โดย ผู้จัดการรายวัน
2 กุมภาพันธ์ 2550 09:24 น.
www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น







กล้วยไม้เป็นไม้เศรษฐกิจอย่างหนึ่งที่ส่งออกทำรายได้เป็นอันดับต้น ๆ ให้กับเมืองไทย ไม่เพียงเท่านั้น แต่กล้วยไม้ยังสร้างความร่ำรวยให้กับคนปลูกมาจำนวนไม่น้อย พลิกชีวิตของชาวสวนจน ๆ ให้กลับกลายเป็นเศรษฐีเพียงข้ามวัน จนกลายเป็นเรื่องเล่าขานกันในวงการถึงคนโชคดีที่จับกล้วยไม้แล้วกลายเป็นเงินและสามารถขายกล้วยไม้ได้ถึงต้นละ 2 ล้านบาทเมื่อ 30 กว่าปีก่อน
       
       
       ยุคแรกของกล้วยไม้เมืองไทย
       
       กล้วยไม้มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของโลก สำหรับเมืองไทยนั้นมีการสำรวจว่ามีกล้วยไม้กว่า 1,000 ชนิด แต่คนไทยเพิ่งจะมารู้จักการเล่นกล้วยไม้อย่างจริงจังและเป็นอาชีพเมื่อ 50 กว่าปีมานี้เอง
       
       แต่เดิมนั้นการเลี้ยงกล้วยไม้ในเมืองไทยจะอยู่เฉพาะในหมู่เชื้อพระวงศ์ซึ่งเล่นกันเป็นงานอดิเรก โดยส่วนมากจะเป็นการสั่งซื้อกล้วยไม้พันธุ์พ่อแม่จากประเทศอังกฤษมาปลูกเลี้ยงกัน ซึ่งกล้วยไม้ที่นิยมเล่นกันในยุคแรกจะเป็นแคทรียาและแวนด้า
       
       ที่รู้จักกันดีคือวังบางขุนพรหมของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิตที่ทรงเล่นเป็นงานอดิเรกอย่างจริงจัง โดยสมัยรัชกาลที่ 6 นั้น วังบางขุนพรหมจะสร้างเรือนกล้วยไม้ขนาดใหญ่ขึ้น 2 หลัง นอกจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ แล้วยังมีก๊วนที่ชอบเล่นกล้วยไม้อีก อาทิ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ , พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพร้อมพงศ์อธิราช , หม่อมเจ้าปิยะภักดีนาถสุประดิษฐ์ เป็นต้น
       
       ในยุคนั้นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ ทรงสนใจเรื่องกล้วยไม้มากจนทรงแต่งตำรากล้วยไม้เล่มแรกของไทย ตีพิมพ์เมื่อปี 2459 โดยทรงศึกษาตำรากล้วยไม้ของฝรั่งที่ได้ประทานจากกรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ
       
       ในภายหลังกล้วยไม้เริ่มจะแพร่ขยายออกจากวังไปอยู่บ้านของเศรษฐีที่มีเงิน โดยถือว่าเป็นไม้มงคลหรือไม้ศักดินา เนื่องจากกล้วยไม้ในยุคนั้นยังมีราคาแพงและต้องนำเข้ามาจากเมืองนอกเท่านั้น
       
       ยุค "มือสมัครเล่น"
       
       ในปี 2478 เริ่มมีการเปิดฝึกอบรมการเลี้ยงกล้วยไม้ให้กับประชาชนทั่วไป และมีการจัดตั้งชมรมกล้วยไม้ขึ้นในปี 2498 ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นสมาคมกล้วยไม้เมื่อปี 2500 ซึ่งถือเป็นยุคเริ่มแรกของ "มือสมัครเล่น " กลุ่มใหม่ที่เปลี่ยนโฉมหน้าจากเดิมที่ต้องเป็นคนมีเงินเท่านั้นจึงจะเล่นกล้วยไม้ได้
       
       "มือสมัครเล่น"ในยุคแรก ๆ นั้นสนใจที่จะเล่นกล้วยไม้เพื่อเป็นงานอดิเรกถือเป็นความสุขทางใจ กิจกรรมหนึ่งของสมาคมฯคือการจัดการประกวดกล้วยไม้ประจำปีขึ้นซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากบรรดามือสมัครเล่นทั้งหลาย
       
       ไกรฤทธิ์ เวศย์วรุตม์ นายกสมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทยฯ เขาใช้ชีวิตกับกล้วยไม้มากว่า 30 ปี จนปัจจุบันมีสวนกล้วยไม้ของตนเองในย่านนครชัยศรี ชื่อ LAKE LAND ORCHID ไกรฤทธิ์ได้เล่าย้อนประสบการณ์เกี่ยวกับกล้วยไม้ในยุคมือสมัครเล่นว่า
       
       "ในยุคนั้นถ้าใครเล่นกล้วยไม้แล้วนำเข้าประกวดได้รางวัลจะเป็นที่ฮือฮากันมาก คนจะคอยตามคิวจองเล่น อย่างแคทรียาที่ชนะการประกวดนั้น ถ้าใครอยากได้ต้องซื้อหน่อละเป็นหมื่นบาท ( ทองราคาบาทละ 400 บาท ) "
       
       ตลาดกล้วยไม้บ้านเราจึงกลายเป็นไม้ราคาแพงมากในยุคนั้น และก็เริ่มมีคนพยายามหากล้วยไม้พันธุ์แปลกใหม่เข้ามาเล่นกันมากขึ้นจากเดิมที่เล่นแต่แคทรียาและแวนด้า เมื่อมีการดิ้นรนหากล้วยไม้แปลกใหม่จึงเริ่มมีพ่อค้าหัวใสที่นำกล้วยไม้ออกมาจากป่ามากองขายที่สนามหลวง
       
       "ตอนนั้นมีคนเข้าไปเก็บกล้วยไม้ป่ามากันเป็นเข่ง ๆ แล้วก็เอามากองขายที่สนามหลวง พวกที่ชอบกล้วยไม้ก็จะนิยมเดินหาซื้อกันในราคาถูกมาก เลือกไปเลือกมาจนอาจารย์ระพี ค้นพบกล้วยไม้ช้างแดงที่สนามหลวงนี่เอง" ไกรฤทธิ์กล่าว
       
       แต่เดิมนั้นนักเล่นกล้วยไม้รู้จักแต่ช้างกระ ช้างเผือก แต่พอดร.ระพีค้นพบ "ช้างแดง" ก็สร้างความฮือฮาให้กับวงการมาก เพราะสีแดงที่งดงามให้ช่อใหญ่ มีกลิ่นหอม ทำให้ราคาช้างแดงพุ่งไปต้นละเป็นหมื่นบาท
       
       ในยุคเริ่มแรกของกล้วยไม้นั้น กลุ่มผู้บุกเบิกที่ทำให้วงการกล้วยไม้ขยายตัวและเติบโตมาจนถึงปัจจุบันมีอาทิ ศ.ดร. ระพี สาคริก , ทองหล่อ รักษ์ไพบูลย์สมบัติ ,ไพโรจน์ ลีนะวัต และลุงเย็น เป็นต้น บุคคลเหล่านี้อุทิศเวลาให้กับการพัฒนาวงการกล้วยไม้ มีการนำเข้ากล้วยไม้พันธุ์ใหม่ ๆ เพื่อนำมาผสมพันธุ์ให้ได้สายพันธุ์ที่แปลกขึ้น ถือเป็นการวางรากฐานวงการกล้วยไม้ไทยให้เข้มแข็งมาจนถึงปัจจุบันนี้
       
       "มาดามปอมปาดัวร์" ยุคทองของกล้วยไม้
       
       หวายปอมปาดัวร์ หรือที่นิยมเรียกว่า "มาดามปอมปาดัวร์" เป็นกล้วยไม้สกุลหวายที่นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จากประเทศออสเตรเลียตอนเหนือ นำไปผสมพันธุ์ยังประเทศฝรั่งเศส แล้วมีการนำเข้ามาปลูกเลี้ยงในเมืองไทยเพื่อดูเล่น เมื่อเกือบ 30 กว่าปีที่แล้ว
       
       ตำนาน "มาดามปอมปาดัวร์" ถือเป็นกล้วยไม้เงินล้านยุคแรก ๆ เริ่มจากมีผู้นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และจากการทดลองตัดดอกก็ปรากฏว่าให้ดอกใหญ่ สวยงาม ดอกคงทนจึงเริ่มมีการตัดดอกเพื่อส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยส่งไปที่ยุโรป ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าเริ่มเป็นที่นิยมของเมืองนอกมากจึงทำให้คนเริ่มฮือฮาอีกครั้งหนึ่ง เพราะต้องนับดอกขายกันเลย ราคาช่อละ 12 - 20 บาท บางฤดูกาลต้องนับดอกขายกันดอกละ 2 บาท
       
       ส่งผลให้คนแห่กันมาหาซื้อกล้วยไม้มาดามปอมปาดัวร์กันมากมาย ตอนนั้นใครมีกล้วยไม้พันธุ์นี้ถือว่าจับเงินจับทองทีเดียวเพราะมีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย ชาวสวนกล้วยไม้ลืมตาอ้าปาก ปลูกบ้านหลังใหญ่โตกันเป็นแถว ยิ่งตอนนั้นมาดามปอมปาดัวร์นิยมปลูกเป็นไม้กระถางมีจำนวนไม่มาก เมื่อมีออร์เดอร์เข้ามามาก เจ้าของต้นจึงต้องล้มต้นแล้วปล่อยให้แตก"ตะเกียง" ( คือการขยายพันธุ์ด้วยด้วยวิธีการตัดลำต้นตรงส่วนตาเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ต้นแตกออกมา ) แต่กว่าต้นใหม่จะให้ดอกก็ต้องเสียเวลาเลี้ยงอีก 1 - 2 ปี ดังนั้นการผลิตจึงไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
       
       "ยุคนั้นถือเป็นยุคทองของมาดามปอมปาดัวร์เลย ถ้าใครอยากจะเลี้ยงตัดดอกต้องลงทุนซื้อยกสวนกันเลย แล้วค่อย ๆ ขยายพันธุ์กันต่อไปอีกก็ยิ่งได้เงินเพิ่มขึ้นอีก" ไกรฤทธิ์กล่าว
       
       ต่อมาเริ่มมีคนนำหวายสกุลซีซาร์จากฝรั่งเศสเป็นหวายกลีบบิด มาผสมกับหวายจากฮาวายชื่อโตมิเดรค ที่ฟอร์มดอกกลมโต ได้เป็น "โซเนีย" แต่คนนิยมเรียกว่า "BOMB" เพราะออกมาครั้งแรกก็ตูมตามในวงการกล้วยไม้เลย เนื่องจากดอกโต ผึ่งผาย ให้สีสวยงาม จึงทำให้คนหันมานิยม BOMB แทนมาดามปอมปาดัวร์
       
       ช่วงที่ BOMB เกิดขึ้นใหม่ ๆ นั้นแทบทุกสวนกล้วยไม้จะต้องสั่งจองต้นกันเลย และจะไม่ขายกันต้นสองต้น แต่จะต้องซ$
Link  
   
Web Board  
  >>>Web Board Hort’40<<<  
Today, there have been 1 visitors (12 hits) on this page!
This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free